ส่วนผสมเค้ก
1. เนยจืด(unsalted butter) 150 กรัม ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ จะได้ละลายง่ายๆ
2. ผงโกโก้ 2/3 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย(ควรใช้น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด)
4. ไข่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
5. ผงฟู 1/4 ชช
6. วนิลา 1 ช้อนชา
7. แป้งเอนกประสงค์ 1 1/3 ถ้วย
8. เบกกิ้งโซดา 1/4 ชช
วิธีเตรียม
- ผสมแป้งผงฟู ร่อนรวมกันวิธีทำ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
เนยสด ¼ ถ้วยตวง
น้ำ 1/3 ถ้วยตวง
น้ำตาลไอซิ่ง 3 ถ้วยตวง
ส่วนผสม สำหรับบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก
ส่วนผสมขอสูตรนี้จะเยอะกว่าบลูเบอร์รี่ชีสพายไปซักหน่อยค่ะ ใครที่อยากลองทำขนมใหม่ แล้วไม่อยากยุ่งยากมากก็ไปลองทำ Blueberry cheese pie ดูก่อนก็ได้ค่ะ
ฐานคุ๊กกี้ครัสท์- แครกเกอร์ 300 กรัม
- เนยเค็ม 100 กรัม
- เจลาตินแผ่น (แผ่นละ 3 กรัม) 2 แผ่น
- น้ำตาลทรายขาว 80 กรัม
- น้ำ 45 กรัม
- ไข่แดง 3 ฟอง
- ครีมชีส 250 กรัม
- น้ำมะนาว 60 กรัม
- วิปปิ้งครีม 200 กรัม
- บลูเบอร์รี่ชนิดกระป๋อง 1 กระป๋อง
อุปกรณ์ในการทำบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก
- เครื่องตีไฟฟ้า
- เตาอบไมโครเวฟ หรือเตาแก๊ส
- พายยาง
- อ่างผสม
- พิมพ์แบบถอดฐานได้ขนาด 8 นิ้วครึ่ง หรือถาดฟอยล์สูง 3 นิ้วฐาน 2 นิ้ว จำนวน 6 อัน
วิธีและขั้นตอนการทำ บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก
- เตรียมพิมพ์ โดยถ้าเป็นพิมพ์แบบถอดได้ให้ตัดกระดาษไขมารองที่ฐานก่อนค่ะ
- ทีฐานชีสเค้กโดยตำแครกเกอร์ให้ละเอียด
- ละลายเนยในไมโครเวฟ แล้วทิ้งให้เย็น
- นำเนยที่ละลายแล้วมาคลุกให้เข้ากับแครกเกอร์ที่บดละเอียดแล้ว ดูให้เหมือนทรายเปียกถือว่าใช้ได้แล้วค่ะ
- นำแครกเกอร์ที่ผสมเนยแล้วมาในในพิมพ์หรือถาดที่เตรียมไว้ แล้วเอาเข้าตู้เย็นธรรมดาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง แต่ครั้งนี้ออฟรีบค่ะก็เลยเอาเข้าช่องฟรีซไปเลยชั่วโมงครึ่ง
- แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว และบีบมะนาวเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ
- มาทำชีสเค้กกันต่อด้วยการใส่น้ำตาล และน้ำลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไปกลาง จนน้ำตาลละลาย และน้ำเชื่อมเดือดเป็นฟองเล็กๆ
- ตีไข่แดงด้วยเครื่องตีไฟฟ้า
- เทน้ำเชื่อมลงในอ่างไข่แดงช้าๆ ให้เป็นสายบางๆ แล้วตีต่อจนหายร้อนหรือไข่แดงขึ้นฟู โดยดูว่าสีของไข่แดงจะอ่อนลงและมีลักษณะเป็นครีม
- ค่อยๆ ใส่ครีมชีสของไปทีละน้อยจนหมด แล้วตีต่อจนเนื้อชีสเค้กเนียนไม่เป็นเม็ด
- ใส่น้ำมะนาวลงในหม้อ แล้วยกขึ้นตั้งไฟให้น้ำมะนาวร้อน แล้วปิดไฟ
- นำแผ่นเจลาตินแช่น้ำเย็นประมาณ 5-7 นาที พอได้เวลาแล้วก็เอาใส่ในน้ำมะนาวร้อน คนให้เจลาตินละลาย พักให้หายร้อน
- เทส่วนผสมของมะนาวและเจลาตินลงในอ่างผสม แล้วตีให้เข้ากันแล้วพักไว้
- ตีวิปปิ้งครีม โดยเช็ดภาชนะให้แห้งและไม่มีความมันก่อน ตีจนครีมตั้งยอดอ่อน
- นำวิปปิ้งครีมแบ่งใส่ส่วมผสมชีสเค้ก และตะล่อมด้วยพายยางให้เข้ากัน แล้วจึงใส่วิปปิ้งครีมที่เหลือ
- ตักส่วนผสมของชีสเค้กใส่ในพิมพ์ แล้วนำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง
- ใช้มีดแซะขอบออกก่อน แล้วเอาพิมพ์ออก
- ราดหน้าด้วยบลูเบอร์รี่กวน
วิธีการทำ พุดดิ้งช็อกโกแลต
เครื่องปรุงส่วนผสม
ผงโกโก้ ๑/๔ ถ.
น้ำตาล ๑/๓ ถ.
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๑ ฟอง
แป้งข้าวโพด ๒ ชต.
เกลือ ๑/๘ ชช.
นมสดจืด ๒ ถ.
bittersweet หรือ semisweet chocolate ๑ ออนซ์
เพียววานิลาแอ๊คแทรค ๑ ชช.
เนยจืด ๑ ชต.
ขั้นตอนการทำ
๑.ผสมผงโกโก้ น้ำตาล ไข่ไก่ แป้งข้าวโพด เกลือ นม
ใส่ในหม้อคนให้เข้ากัน (ในรูปแม่ปูใช้ภาชนะเปลืองไปหน่อย)
๒.ยกหม้อขึ้นตั้งบนเตา เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อน
กวนส่วนผสมให้เนียนข้น พอเดือดปุดๆก็ยกลงจากเตา
๓.ใส่ช็อกโกแล็ต เนย และวานิลา คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
เมื่อช็อคโกแล็ตละลายดีแล้ว ก็ให้เทใส่ภาชนะนำไปแช่ตู้เย็น
แช่ไปสักชั่วโมงสองชั่วโมง ส่วนผสมจะข้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อยค่ะ
วิธีการทำบัตเตอร์เค้ก
ส่วนผสม:
- แป้งเค้ก
- ไอส์ซิ่ง หรือนำน้ำตาลไปปั่นในโถแห้ง
- นมสดรสจืด
- ไข่ไก่สด
- เนยละลาย
- โอวาเล็ต (ทำให้เค้กมีเนื้อเนียนละเอียด)
- กลิ่น นม-เนย
- เกลือ
- ผงฟู
ขั้นตอนการทำ:
- ร่อนของแห้งทั้งหมดลงผสมให้เข้ากัน
- นำสวนผสมทั้งหมดมาตีให้เข้ากันยกเว้นเนยละลาย ตีจนส่วนผสมเป็นสีเหลืองออน
- ค่อยๆใส่เนยละลาย
- เทลงใส่พิมพ์ เข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับขนาด
- นำออกมาพักรอให้เย็น พร้อมรับประทาน
คัพเค้กวาเลนไทน์ หวาน น่ารัก ง่ายๆ
| ||||||||||||||||||||||||||||||
มาอีกแล้วค่ะ สำหรับไอเดียเก๋ๆรับเทศกาลวาเลนไทน์ที่ใกล้เข้ามาทุกที คราวนี้เราจะมาลองทำ cup cake หวานๆเพื่อเพิ่มความหวานให้ชีวิตคุณกันค่ะ เริ่มจากส่วนผสม
เปิดวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮด์ หรือ 180 องศาเซลเซียส แล้วมาเริ่มทำกันเลยค่ะ 1.ร่อนแป้งและผงฟูพักไว้ 2.ตีไข่ไก่+น้ำ+น้ำตาลทราย+เกลือ+เอสพี และแป้ง ด้วยความเร็วต่ำ ประมาณ 1 นาที แล้วปาดอ่าง Tips : สิ่งที่เราต้องการคือ ให้ส่วนผสมที่เป็นของแห้งพอจะผสมเข้ากับส่วนของเหลว การปาดอ่างจะช่วยให้ส่วนของแห้งที่ยังไม่เปียกตามขอบๆผสมเข้ากับส่วนอื่นๆได้ดีขึ้น 3.ตีต่อด้วยความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที แล้วลดเป็นความเร็วต่ำ ประมาณ 1 นาที แล้วเติมนมข้นจืดและเนยสดละลาย ผสมให้เข้ากัน รอจนเนยเข้ากับส่วนผสมหมด มองไม่เห็นรอยแล้วปิดเครื่อง(ระหว่างนั้นใช้ความเร็วต่ำตลอด) Tips 1 : ก่อนจะเติมนม+เนย ส่วนผสมจะต้องเข้ากันดีจนขึ้นข้นขาว คือ ส่วนผสมข้นจนถึงที่เราเรียกว่า ribbon stage เป็นสีขาว และฟูขึ้นจากเดิมประมาณ 2-3 เท่า Tips 2 : เติมกลิ่นวานิลา หรือ กลิ่นนมเนยลงในนมข้นจืด ช่วยดับกลิ่นคาวของไข่ และเนยควรละลายให้เหลวหมด อย่าให้เหลือส่วนที่ยังแข็งแล้วมาคนให้เข้ากัน และไม่ควรปล่อยให้เดือดปุดๆ เทขณะที่เนยยังร้อนแต่ไม่ร้อนจัด(นิ้วจิ้มดูแล้วร้อนค่อนข้างมากแต่ทนได้) 4.นำเข้าอบใช้ไฟล่างมากกว่าไฟบน หรือ ไฟล่างอย่างเดียว ประมาณ 12-15 นาที เช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มถ้าเนื้อขนมไม่เปียกติดไม้เป็นอันใช้ได้ นำมาพักบนตะแกรงรอให้เย็นแล้วแต่งหน้า Tips : ไม่ควรเปิดเตาดูขนมบ่อยๆ ถ้าไม่แน่ใจ รอจนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาทีค่อยเปิดดู สังเกตที่หน้าขนม ถ้าสุกแล้วจะแห้ง แล้วใช้ไม้ลองจิ้มลงไปลึกๆดู ส่วนผสมบัตเตอร์ครีมสำหรับแต่งหน้าเค้ก
1.เทรวมน้ำตาลทราย+เกลือ+นมข้นจืด และน้ำลงในภาชนะ แล้วตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลายหมด แล้วยกลง ปล่อยไว้ให้เย็น 2.หั่นเนยสดเป็นชิ้นเล็กๆใส่โถตีพอนุ่ม แล้วใส่เนยขาวลงไปตีจนขึ้นฟูเบา(อาจปาดอ่างช่วยถ้าเนยไม่ค่อยเข้ากันดี)ใช้ความเร็วปานกลางนานประมาณ 30 นาที 3.ปรับเป็นความเร็วต่ำ แล้วเติมน้ำเชื่อมที่ทิ้งไว้จนเย็นแล้ว ตีต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดเครื่อง |
แบ่งครีมเพื่อเติมสีตามชอบ คนจนเป็นสีเดียวกันและเนียน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :) http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amuletstory&month=03-2012&date=21&group=6&gblog=28
และ http://don-jai.com/blueberry-cheesecake/ :))
